การดูแลรักษาบ้านเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ควรทำเป็นประจำเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพบ้านช่วยให้บ้านคงสภาพดีปลอดภัย ต้องหมั่นตรวจสอบผนังบ้านว่าสีผนังเกิดรอยร้าว สีลอก หากพบว่าสีเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ควรเรียกช่างเข้ามาดูแลซ่อมแซม ทาสี ขัดเงา รวมไปถึงทาเคลือบป้องกันปลวกให้เรียบร้อยเพื่อให้บ้านคงสภาพดีดั้งเดิม ไม่ทรุดโทรมจนไม่น่าอยู่และยืดอายุการใช้งานของบ้านออกไปได้
จุดที่ควรตรวจสอบความเสียหายของบ้านเป็นประจำ
หลังคา:ตรวจสอบรอยรั่ว ซ่อมแซมกระเบื้องที่แตก เปลี่ยนท่อระบายน้ำที่อุดตัน ทำความสะอาดรางน้ำฝน เผื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
ผนัง:ตรวจสอบรอยร้าว รอยสีลอก รอยฝุ่นคล้ายแป้ง รอยรั่วซึม เช็คสภาพของไม้ระแนง ตรวจสอบปลวกและแมลง
พื้น:ตรวจสอบรอยแตก รอยร้าว รอยปูนบวม พื้นกระเบื้องที่หลุดร่อน ตรวจสอบสภาพของไม้พื้น
ประตูและหน้าต่าง: ตรวจสอบการปิดเปิด รอยร้าว ขอบประตู หน้าต่างที่สึกหรอ ตรวจสอบสภาพของกุญแจ กลอน
ระบบไฟฟ้า:ตรวจสอบปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ สายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ดูว่ามีรอยไหม้ ประกายไฟ หรือชำรุดหรือไม่
ระบบประปา:ตรวจสอบท่อรั่ว ก๊อกน้ำ ฝักบัว ชักโครก ดูว่ามีรอยรั่วซึม น้ำไหลไม่สะดวก หรือชำรุดหรือไม่
สวน: ตรวจสอบต้นไม้ที่ตาย กิ่งไม้ที่หัก วัชพืช ดูแลระบบน้ำ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย
วิธีการซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน:
ซ่อมแซมความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ด้วยตัวเอง เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมก๊อกน้ำที่รั่ว อุดรอยร้าวบนผนัง
จ้างช่างผู้ชำนาญการสำหรับงานซ่อมแซมที่ยาก เช่น ซ่อมหลังคา ทาสีบ้าน ต่อเติมบ้าน
เปลี่ยนวัสดุที่เก่าหรือเสื่อมสภาพ เช่น เปลี่ยนกระเบื้องพื้น เปลี่ยนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เปลี่ยนหลังคาบ้าน
ปรับปรุงบ้านให้สวยงาม ทันสมัย เช่น เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ทาสีบ้าน ตกแต่งสวน
การดูแลรักษาบ้านเป็นประจำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและทำให้บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและน่าอยู่
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ช่วยป้องกันฝุ่นละออง คราบสกปรก และเชื้อโรค
ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและประปาเป็นประจำ ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว น้ำรั่ว
เก็บของให้เป็นระเบียบ ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และทำให้บ้านดูโล่งโปร่ง
ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน ช่วยประหยัดพลังงาน
ปลูกต้นไม้รอบบ้าน ช่วยดูดซับฝุ่นละออง มลพิษ และสร้างบรรยากาศร่มรื่น
การดูแลรักษาบ้านอย่างสม่ำเสมอเปรียบเสมือนการให้ความรักกับบ้าน บ้านของคุณจะสวยงามน่าอยู่ปลอดภัยและอยู่คู่กับคุณไปนานๆ